เมนู

อปริยาปันนกถา



[1594] สกวาที ทิฏฐิเป็นอปริยาปันนะ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เป็นมรรค เป็นผล เป็นนิพพาน เป็นโสดาปัตติมรรค
เป็นโสดาปัตติผล เป็นสกทาคามิมรรค เป็นสกทาคามิผล เป็นอนาคา-
มิมรรค เป็นอนาคามิผล เป็นอรหัตมรรค เป็นอรหัตผล เป็นสติปัฏฐาน
เป็นสัมมัปปธาน เป็นอิทธิบาท เป็นอินทรีย์ เป็นพละ เป็นโพชฌงค์ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1595] ป. ไม่พึงกล่าว ทิฏฐิเป็นอปริยาปันนะ หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. ปุถุชน พึงกล่าวว่า ผู้ปราศจากกำหนัดในกามทั้งหลาย
หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. ไม่พึงกล่าวว่า ผู้ปราศจากทิฏฐิ หรือ ?
ส. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ป. ถ้าอย่างนั้น ทิฏฐิเป็นอปริยาปันนะ น่ะสิ.
อปริยาปันนกถา จบ

อรรถกถาอปริยาปันนกถา



ว่าด้วย โลกุตตรธรรม



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องอปริยาปันนะ คือโลกุตตระ. ในเรื่องนั้น ชน
เหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธินิกายปุพพเสลิยะทั้งหลายว่า ปุถุชนผู้ได้

ฌานพึงกล่าวได้ว่าเป็นผู้มีราคะไปปราศแล้วในกามทั้งหลาย แต่ไม่ได้
กล่าวว่าเป็นผู้มีทิฏฐิไปปราศแล้ว เหตุใด เพราะเหตุนั้น ทิฏฐิจึงเป็น
อปริยาปันนะ คือ โลกุตตรธรรม ดังนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึงชน
เหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. คำที่เหลือในที่นี้ พึงทราบตาม
พระบาลีนั่นแหละ ดังนี้แล.
อรรถกถาอปริยาปันนก จบ

รวมกถาที่มีในวรรคนี้คือ



1. กุสลากุสลปฏิสันทหนกถา 2. สฬายตนุปปัตติกถา 3. อนันตร-
ปัจจยกถา 4. อริยรูปกถา 5. อัญโญอนุสโยติกถา 6. ปริยุฏฐานัง
จิตตวิปปยุตตันติกถา 7. ปริยาปันนกถา 8. อัพยากตกถา 9. อปริยา-
ปันนกถา.
วรรคที่ 14 จบ